03 ก.ย. ภารกิจเพื่อโลก “ซันไลต์” ยกระดับ ”ปฏิวัติขยะพลาสติก” เปลี่ยนแพคเกจจิ้งยกเซตเป็นพลาสติกรีไซเคิล 100%
จากสบู่ซันไลต์ก้อนแรกที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2433 ด้วยแนวคิดเพื่อปฏิวัติการทำความสะอาดและสุขอนามัยของคนอังกฤษในยุคนั้น ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยจนกลายมาเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่นิยมใช้ไปทั่วโลก วันนี้ ซันไลต์ (Sunlight) ในประเทศไทยกำลังปฏิวัติครั้งใหญ่เพื่อก้าวสู่บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ยูนิลีเวอร์ (Unilever) บริษัทแม่ของแบรนด์ซันไลต์ เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีแบรนด์ทั้งหมดในเครือมากกว่า 400 แบรนด์ จาก 14 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เมื่อปี 2016 ยูนิลีเวอร์ กรุ๊ป ทำยอดขายทั่วโลกได้ราวๆ 52.7 พันล้านยูโร เรียกได้ว่าในแต่ละครัวเรือนทั่วโลก 2.5 พันล้านคน จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของค่ายนี้อย่างน้อย 1- 3 ชิ้น จึงถือว่าได้ว่ายูนิลีเวอร์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้บริโภคอย่างมาก
นั่นจึงเป็นที่มาของแนวความคิดที่ผู้บริหารใช้คำว่า “แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน” (Unilever Sustainable Living Plan) ของยูนิลีเวอร์ โดยระบุเรื่องเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าจะต้องขับเคลื่อนให้แผนนี้เป็นจริงและเกิดขึ้นได้ทั่วโลก
นักวิเคราะห์หลายคนยอมรับว่ายูนิลีเวอร์มิได้เขียน “รายงานความยั่งยืนประจำปี” ไว้เพื่อให้ดูดีเท่านั้น แต่ยูนิลีเวอร์กำลังทำให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อม ๆ กับการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำให้ธุรกิจเติบโต ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มผลกระทบทางสังคมเชิงบวก ภายใต้เงื่อนเวลาที่ชัดเจน
สำหรับเมืองไทยนั้น หลังจากเปลี่ยนแม่ทัพคนใหม่คือ โรเบิร์ต แคนเดลิโน ซึ่งใช้เวลาศึกษาและทำความเข้าใจวัฒนธรรมและผู้บริโภคไทยอยู่ 2 ปี ล่าสุดเมื่อต้นปี 2562 ยูนิลีเวอร์ประเทศไทยได้ประกาศนโยบาย “ปฎิวัติพลาสติก” โดยโรเบิร์ต กล่าวในงานแถลงข่าวประจำปี 2562 ของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ว่า
“ด้วยความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติกในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ยูนิลีเวอร์ได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงระบบอย่างเป็นรูปธรรม และได้ส่งสัญญาณไปยังอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เห็นได้จากการผสมผสานระหว่างมาตรการต้นน้ำด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์และการใช้วัสดุ กับกลยุทธ์การจัดการพลาสติกใช้แล้ว ที่ได้นำเสนอแนวทางของทั้งระบบที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการทำให้แนวคิดเศรษฐกิจพลาสติกแนวใหม่ (New Plastics Economy) เกิดขึ้นได้จริง โดยยูนิลีเวอร์ได้วางเป้าหมายใหญ่ในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้น้ำ รวมถึงจำนวนขยะและบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องลดลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573”
สำหรับเรื่องจำนวนขยะและบรรจุภัณฑ์ได้กลายมาเป็นแผนงานที่เรียกว่า “ปฏิวัติพลาสติก” ด้วยการผลักดัน “ซันไลต์” หนึ่งในแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนของยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดน้ำยาล้างจานในประเทศไทยมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท ด้วยการใช้งานดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิตใหม่มาเปลี่ยนโฉมบรรจุภัณฑ์ซันไลต์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ขณะเดียวกันก็ลดการใช้พลาสติกในการผลิตบรรจุภัณฑ์ เป็นวิธีลดขยะพลาสติกได้ตั้งแต่ต้นทาง
สำหรับการปรับเปลี่ยนโฉมบรรจุภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ได้วางแผนเป็นขั้นตอนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายภายใน 5 ปี โดยเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 เริ่มเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขวดดีไซน์ใหม่ ซึ่งเปลี่ยนขวดพลาสติก HDPE จากขวดกลมทึบสีเหลืองที่ใช้มาอย่างยาวนาน มาเป็นขวด PET ซึ่งเป็นขวดพลาสติกใสคุณภาพสูง ที่สามารถมองเห็นสีและปริมาณน้ำยาล้างจานในขวดได้ชัดเจน ซึ่งมาพร้อมดีไซน์พิเศษรูปกลีบมะนาวเพื่อการหยิบจับกระชับมือ
แค่การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้สามารถส่งผลให้ลดการใช้พลาสติกได้ถึง 274 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับขวดซันไลต์ขนาด 150 มล. จำนวน 26 ล้านขวดทีเดียว
ต่อมาเดือนมกราคม 2562 มีการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำขวดบรรจุภัณฑ์ จากพลาสติกผลิตใหม่ (Virgin Plastic) มาเป็น พลาสติกรีไซเคิล 100% (Post-Consumer Recycled – PCR) เพื่อลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single Use Plastic) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้งได้ถึง 277 ตันต่อปีแล้ว ยังช่วยลดก๊าซที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้ถึง 56% และภายในสิ้นปี 2563 ก็ถึงคิวการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์แกลลอน จากขวดพลาสติก HDPE เป็นพลาสติกรีไซเคิล 100%
ส่วนภายในปี 2565 จะทำการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ถุงเติม จากพลาสติกที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ให้เป็นพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเมื่อแผนที่ตั้งไว้ครบตามเป้าหมายทั้งหมดแล้วจะส่งผลให้บรรจุภัณฑ์ทุก SKU ของซันไลต์เป็นพลาสติกรีไซเคิล และทำได้ก่อนกำหนดเป้าหมายเดิมของบริษัทฯ ถึง 3 ปี อีกด้วย
ไม่เพียงแผนการปรับเปลี่ยนแพคเกจจิ้งเท่านั้น แต่ซันไลต์ยังมีแผนกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นถึงปัญหาขยะพลาสติกผ่านกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ มากมาย โดยใช้แนวคิดให้ผู้บริโภคตระหนักและเห็นความสำคัญในการ ลด-ละ-เลิก ใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง แล้วหันมาเลือกใช้พลาสติกรีไซเคิลให้มากขึ้น การนำบรรจุภัณฑ์มาใช้ซ้ำ รวมไปถึงการจัดการกับบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้วอย่างเหมาะสมด้วยการแยกขยะ และการนำของเก่ามาใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ต่อจากต้นทางอีกด้วย
พร้อมกันนี้ ซันไลต์ ยังได้เจาะฐานผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติก ด้วยการร่วมมือกับ 3 สถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดโครงการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากพลาสติกเหลือใช้ และจัดแสดงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ทั่วประเทศพึ่งพาพลาสติกในชีวิตประจำวันให้น้อยลงและใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่าที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายผลการดำเนินงานไปสู่เครือข่ายร้านค้า 7-11 ด้วยการสร้างแคมเปญรณรงค์การใช้พลาสติกรีไซเคิล พร้อมวางแผนการสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาในชื่อชุด สื่อประชาสัมพันธ์ในร้านค้า และสื่อนอกบ้านอย่างครบวงจร
Sorry, the comment form is closed at this time.