ฟิล์มแคร์รอต นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์กินได้

ฟิล์มแคร์รอต นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์กินได้

กรมวิชาการเกษตร ปั๊มนวัตกรรมฟิล์มห่ออาหารรับประทานได้ วิจัยพบแคร์รอตมีคุณสมบัติครบตอบโจทย์บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปิ๊งไอเดียผลิตเป็นฟิล์มห่อลูกอมและผลไม้กวน ประโยชน์หลายเด้ง ทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตผลทางการเกษตร ลดปัญหาขยะพลาสติก พร้อมตอบเทรนด์สุขภาพฟิล์มแคร์รอต 1 แผ่นมีสารเบต้าแคโรทีนสูงกว่า 3,000 ไมโครกรัม
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ห่อหุ้มอาหาร เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพและอายุการเก็บรักษาอาหาร โดยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ห่อหุ้มจะช่วยปกป้องไม่ให้อาหารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร และป้องกันการเสื่อมเสียจากจุลินทรีย์และเคมี อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจส่วนแบ่งตลาดของวัสดุที่นำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มอาหารพบว่าส่วนใหญ่เป็นพลาสติกสังเคราะห์ ซึ่งย่อยสลายได้ยากกลายเป็นขยะที่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก

จากปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดการวิจัยหาวัสดุจากธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้เพื่อพัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับห่อหุ้มอาหาร โดยกองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้ทำการคัดเลือกวัตถุดิบซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตร ได้แก่ กะหล่ำปลีสีม่วง มะเขือเทศ มะม่วง และแคร์รอต โดยนำมาทดลองเพื่อค้นหาคุณสมบัติของผักและผลไม้ดังกล่าวที่มีลักษณะปรากฏใกล้เคียงกับฟิล์มห่อหุ้มอาหารปกติมากที่สุด และสามารถพัฒนาผลิตเป็นแผ่นฟิล์มสำหรับห่อหุ้มอาหารที่รับประทานได้ด้วย ซึ่งผลจากการทดลองพบว่าแคร์รอตเป็นพืชที่มีลักษณะปรากฏเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาวิจัยต่อยอดเป็นฟิล์มที่สามารถบริโภคได้

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาฟิล์มบริโภคได้จากผักและผลไม้ โดยการทดลองแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การคัดเลือกวัตถุดิบ และการปรับปรุงคุณสมบัติของฟิล์ม สำหรับการคัดเลือกวัตถุดิบได้คัดเลือกผักและผลไม้กลุ่มที่มีองค์ประกอบของสารกลุ่มพอลิแซคคาร์ไรด์ ได้แก่ เพคติน เซลลูโลส และสตาร์ชสูง นำมาให้ความร้อนและตีป่นจนเป็นเนื้อละเอียดในรูปพิวเร่ (Puree) ก่อนขึ้นรูปเป็นฟิล์ม ซึ่งพบว่าแคร์รอตที่ความเข้มข้น 30% โดยน้ำหนักให้ฟิล์มที่มีลักษณะดีที่สุด คือ แห้งและไม่กรอบเปราะจึงคัดเลือกแคร์รอตเป็นวัตถุดิบในการวิจัยครั้งนี้

หลังจากนั้นนำฟิล์มจากแคร์รอตที่ได้จากส่วนแรกมาปรับปรุงคุณสมบัติโดยแบ่งการทดลองออกเป็น 2 ส่วนย่อย คือ ส่วนของการปรับปรุงความแข็งแรงของฟิล์มด้วยเพคติน (pectin) และแอลจิเนต (alginate) เลือกสูตรที่ดีที่สุดมาปรับปรุงการยืดตัวโดยการเติมไซลิทอล ซึ่งพบว่าการเติมแอลจิเนต 3% ของน้ำหนักเนื้อ แคร์รอต และไซลิทอล (xylitol) 3.75% ของน้ำหนักเนื้อแคร์รอตให้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติดีที่สุด โดยแอลจิเนตมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับฟิล์ม ทำให้มีความเหนียวไม่ขาดง่าย ส่วนไซลิทอลเป็นสารให้ความหวานใช้แทนน้ำตาลใส่เติมลงไปเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับฟิล์ม โดยฟิล์มจากแคร์รอตที่พัฒนาขึ้นนี้มีความต้านทานการซึมผ่านก๊าซออกซิเจนอยู่ในระดับที่ดีจึงนำมาประยุกต์เป็นฟิล์มห่อผลิตภัณฑ์เช่น ลูกอม และผลไม้กวน นอกจากนี้ ฟิล์มแคร์รอตยังมีคุณค่าทางทางโภชนาการและช่วยต้านการเสื่อมคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาออกซิเดชัน เนื่องจากฟิล์มแคร์รอต 1 แผ่นมีปริมาณสารเบต้าแคโรทีนสูงถึง 3,465 ไมโครกรัม โดยฟิล์มแคร์รอตนี้มีอายุการใช้งานได้นานประมาณ 2 เดือน

“งานวิจัยนี้มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดของนักวิจัยที่ต้องการจะผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ห่อหุ้มอาหารที่ทำมาจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก ซึ่งย่อยสลายได้ยากเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสภาวะโลกร้อน ที่สำคัญงานวิจัยนี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตผลทางการเกษตร ทำให้เกิดการใช้ผลิตผลทางด้านการเกษตรให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ฟิล์มห่อหุ้มอาหารที่ทำจากแคร์รอตยังมีส่วนช่วยเสริมคุณค่าทางโภชนาการเป็นการตอบเทรนด์ด้านสุขภาพได้อีกด้วย ซึ่งคณะผู้วิจัยเตรียมที่จะนำผลงานวิจัยฟิล์มแคร์รอตบรรจุภัณฑ์รับประทานได้ไปจดอนุสิทธิบัตรแล้ว ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร โทร 02-9405468” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.

This website uses cookies to improve user experience. By using our website you consent to all cookies in accordance with our privacy policy. เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Performance

    Performance cookies are used to see how visitors use the website, eg. analytics cookies. Those cookies cannot be used to directly identify a certain visitor.

Save