‘ซุปเปอร์เวิร์ม’ หนอนกินพลาสติก ความหวังแก้ปัญหาขยะในเอเชียอาคเนย์

‘ซุปเปอร์เวิร์ม’ หนอนกินพลาสติก ความหวังแก้ปัญหาขยะในเอเชียอาคเนย์

นักวิทยาศาสตร์ในสิงคโปร์กำลังศึกษาเรื่องการใช้ ซุปเปอร์เวิร์ม หนอนที่สามารถย่อยพลาสติกได้ มาช่วยในการแก้ปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งกำลังเป็นวิกฤติหนักในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี หนานหยาง (NTU) ของสิงคโปร์ กำลังคิดหาทางสร้างเครื่องในของหนอนกินพลาสติก ‘ซุปเปอร์เวิร์ม’ จำนวนมาก โดยหวังว่ามันอาจกลายเป็นวิธีทางธรรมชาติที่สามารถแก้ปัญหาขยะพลาสติกได้ และพวกเขากำลังศึกษาหาวิธีการให้หนอนเหล่านี้ใช้ย่อยพลาสติก

ทีมนักวิจัยรู้แล้วว่าเครื่องในของหนอนเหล่านี้สามารถทำให้พลาสติกแตกตัวในระดับโมเลกุล และมันสามารถถูกปรับเปลี่ยนให้สามารถย่อยพลาสติกได้มีประสิทธิภาพมากกขึ้นไปอีก และตอนนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังวิจัยว่า จะสามารถนำกลไกตามธรรมชาตินี้มาใช้ประโยชน์ในระดับอุตสาหกรรมได้อย่างไร

ตามการเปิดเผยของ ศ.หลิว อี้หนาน จาก NTU พระเอกของการวิจัยนี้คือหนอนซึ่งเป็นตัวอ่อนของด้วงดำ หรือ ด้วงขี้ไก่ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในสิงคโปร์ “เราซื้อหนอนนี้มาจากร้านขายสัตว์เลี้ยงท้องถิ่น” “ซุปเปอร์เวิร์มนี้มีชื่อเสียงมาก เพราะมันสามารถกิน และแตกโมเลกุลของพลาสติกได้”

ผลการศึกษาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า เจ้าหนอนซุปเปอร์เวิร์ม ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ‘โซโฟบาส อสตราทัส’ (Zophobas atratus) มีแบคทีเรียในเครื่องในที่ทำให้พวกมันสามารถทำให้พลาสติกทั่วไปแตกตัวได้

แต่การนำหนอนเหล่านี้มากำจัดพลาสติกโดยตรง ไม่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากการรักษาจำนวนประชากรหนอนจำนวนมากนั้นทำได้ยาก พวกมันมักจะใช้เวลาในการกินพลาสติก และเติบโตกลายเป็นด้วงดำ ซึ่งกินพลาสติกไม่ได้แล้ว อย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิศวกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมของ NTU จึงพยายามหาทางตัดตัวหนอนออกจากกระบวนการนี้ และหาทางสร้างเครื่องในที่ย่อยพลาสติกได้ของหนอนเหล่านี้ขึ้นมาเอง

“เรานำสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจากเครื่องในของพวกมันออกมา แล้วใส่เอาไว้ในขวดทดลองพร้อมกับพลาสติก เพื่อให้พวกมันเติบโตบนพลาสติกแล้วกินย่อยสลายมันในที่สุด” ศ.สัคชาม ไบโรลิยา จาก NTU กล่าว

ในบรรดาหนอนหลายร้อยตัวที่ถูกนำมาวิจัย ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยตลอดระยะเวลา 1 เดือน หนอนทดลอง 2 กลุ่มกินแต่พลาสติกจำพวก โพลีเอทิลีน, โพลีโพรพิลีน และ โพลิสไตรีน ซึ่งมักถูกใช้ในการผลิตถุงพลาสติก และสไตโรโฟม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งได้รับข้าวโอ๊ตบดหยาบเป็นอาหาร

“การวิจัยของเราเป็นหนึ่งในการศึกษาไม่กี่แห่งในภูมิภาคนี้ ที่ตรวจสอบการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในหนอนกับพลาสติก ในสภาพแวดล้อมทางทะเล โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือพัฒนากระบวนการทางชีวะชนิดใหม่ เพื่อให้เราสามารถจัดการกับขยะพลาสติกได้” ศ.เชา บิน ผู้ช่วยศาสตราจารย์จาก NTU ซึ่งเป็นผู้นำการวิจัยนี้กล่าว

อนึ่ง ขยะพลาสติกเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอันดับต้นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีปัญหามลภาวะจากพลาสติกในระบบนิเวศทางทะเล และน้ำจืด เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

รายงานจาก ศูนย์เพื่อการพัฒนาภูมิภาคแห่งสหประชาชาติ ในปี 2563 ประเมินว่า จำนวนขณะพลาสติกที่เข้าสู่ทะเลจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นอาจเพิ่มขึ้นจนมากถึง 2.3-6.4 ล้านตัน ภายในปี 2573

ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์มีการเปิดโซนจัดแสดงใหม่เรียกว่า ‘พลาสติก 101’ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ให้ประชาชนลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว และพัฒนานิสัยการรีไซเคิลในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม ศ.บิน ระบุว่า ขยะพลาสติกมากกว่า 50% ทั่วโลกก็ยังคงถูกผลิตขึ้นที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และทางเดียวที่จะจูงใจบริษัทกับประเทศต่างๆ ให้ลงทุนในด้านการรีไซเคิลนั้นคือ ยกระดับพลาสติกให้กลายเป็นวัตถุดิบที่สามารถเปลี่ยนเป็นกำไรได้

และนั่นคือจุดที่ ซุปเปอร์เวิร์ม จะเข้ามา โดยการวิจัยขั้นต่อไปของทีมนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ คือทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่า สิ่งที่หลงเหลือหลังจากไบโอมเครื่องในของหนอนย่อยพลาสติกแล้วคืออะไร สามารถสร้างเม็ดเงินได้หรือไม่ และจะสามารถยกระดับกระบวนการทั้งหมดให้ใหญ่ขึ้นได้หรือเปล่า

“กระบวนการเหล่านั้นอาจเป็นชุดของปฏิกิริยาตอบสนองหลายๆ อย่าง เพื่อเปลี่ยนสภาพพลาสติกให้กลายเป็นโมโนเมอร์ หรือโมเลกุลขนาดเล็กมาก ที่สามารถถูกเปลี่ยนให้เป็นอะไรบางอย่างที่มีค่ามากขึ้นได้” ศ.บิน กล่าว

ด้าน ศ.คริส ริงเค จากมหาวิทยาลัยอินสบรูคในออสเตรีย เชื่อว่า ไม่มีอะไรที่เป็นกระสุนเงินในการแก้ปัญหาขณะพลาสติกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ซุปเปอร์เวิร์มสามารถเป็นหนึ่งในอาวุธทางธรรมชาติในการแก้ปัญหานี้

“การแก้วิกฤติขยะพลาสติก ข้อแรกคือ เราต้องใช้พลาสติกให้น้อยลง สอง เราต้องเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนขึ้น เช่น ถ้วยกาแฟที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง และสาม เราต้องเพิ่มความพยายามในการรีไซเคิล เพื่อที่เราจะได้สามารถใช้งานซุปเปอร์เวิร์มนี้ นี่คือวิธีการตามธรรมชาติในการใช้ซุปเปอร์เวิร์ม, สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในตัวมัน และเอนไซม์ของมัน ในการรีไซเคิลพลาสติก”.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/2770070

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.

This website uses cookies to improve user experience. By using our website you consent to all cookies in accordance with our privacy policy. เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Performance

    Performance cookies are used to see how visitors use the website, eg. analytics cookies. Those cookies cannot be used to directly identify a certain visitor.

Save